ขึ้นรถเสร็จปิดประตูปั๊บ ชายหนุ่มแววตาเขาดูเคร่งเครียดแต่ส่อแววคาดหวังอะไรบางอย่าง เขากล่าวกับเจ้าของรถ "ตามคันนั้นไปอย่าให้คลาดสายตา" เขาพูดสั้นๆ แต่ทำให้คนขับที่จับพวงมาลัยอยู่ต้องเหยียบคันเร่งตามคำพูดของชายหนุ่ม ถนนวันนี้ในบ่ายวันเสาร์ วันที่การจราจรค่อนข้างเบาบาง การติดตามไล่ล่าเป้าหมายทำได้ง่าย " ตามเข้าไปแต่อย่าใกล้จนเป็นที่สังเกต " ครับผม เขาพยายามทิ้งระยะห่างไว้พอประมาณ เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต ระยะอีกประมาณ 50 เมตร เขาก็ต้องพบไฟสัญญาณจราจร ชายหนุ่มไม่อยากพลาดโอกาส จึงรีบให้เขาเร่งไปเพื่อให้ใกล้รถเป้าหมายที่สุด เพราะถ้าหากรถยังติดไฟแดงอยู่ระยะใกล้กันแล้ว หากไฟเขียวเขาก็สามารถขับเคลื่อนและติดตาม โดยเป้าหมายจะไม่คลาดเคลื่อนนั่นเอง
ไฟสัญญาณจราจรให้สีแดงกล่ำ เหมือนลูกแตงโมผ่าครึ่ง ตัวเลขแดง ๆ ขึ้นเป็นเลขสามหลัก "มันจะติดอะไรนานนักหนาวะเป็นนาที ๆ วะ ทีไฟเขียวไม่ถึง 20 วิ "ชายหนุ่มพูดทำนองใจร้อน" เขายังไม่ได้มีสีหน้ายิ้มแย้มเลยหลังจากขึ้นรถมาในช่วงเวลา 15 นาทีนี้ "ผมว่าก็แปลกนะครับถ้ามองมุมหนึ่ง" คนขับพยายามที่จะพูดคุยให้หายเครียด หรือลดกังวลลง "อย่างไฟเขียวที่มันแป๊ปเดียวผมว่า คนใช้หลายทางครับ เพราะ เราไฟแดง ก็ต้องมีอีกเลน อีกแยกที่ติดไฟแดงเหมือนกัน เพื่อให้เขาได้ผ่านไป เราต้องยอมเป็นทั้งไฟเขียว และไฟแดงครับ ต้องยอมรับมันให้ได้ เราคงไม่สามารถจะติดไฟเขียวได้ตลอดเวลา เพราะเราจะเอาผลประโยชน์อย่างเดียวไม่ได้ เราก็ต้องแบ่งปัน เสมือนการติดภาระหรือการติดไฟแดงบนถนน เพื่อให้ไฟเขียว หรือรถคันอื่น ๆ เค้าได้ไปบ้าง"
ชายหนุ่มนั่งฟังจู่ ๆ เขาก็เปิดประตูแล้วลงจากรถในทันที
เสียงตะโกนตามหลังของคู่สนทนาที่พูดยาว ๆ เมื่อกี้ พี่ ๆ จะไปโดยไม่จ่ายค่าแท็กซี่ผมไม่ได้ 75 บาทครับ กลับมาก่อน เขาตะโกนออกไป ท่ามกลางไฟแดงที่ยังคงติดอยู่อีกยาวนาน
ที่มา http://blog.soodkhobfah.com/
ที่มา http://blog.soodkhobfah.com/
No comments:
Post a Comment