เที่ยวอำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร

 เต่างอยเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสกลนครครับ คำว่า "งอย" เป็นภาษาอิสาน หมายถึง การนั่งอยู่ การอยู่บนที่สูง อะำไรประมาณนั้นครับ เต่างอย ก็ถ้าเป็นความหมายก็คือ เต่าที่กำลังนั่งอยู่หรือกำลังเกาะอยู่ที่ใดสักแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบนโขดหิน หรือบนไม้  ทำไมถึงชื่อเต่างอย ผมสอบถามคนละแวกนั้นได้คำตอบว่า ในพื้นที่บริเวณอำเภอนี้ จะมีเต่าจำนวนมาก ซึ่งมักมารวมชุมนุมกันเยอะบริเวณโขดหิน หรือแม่น้ำ จึงได้ชื่อว่า อำเภอเต่างอยครับ ทริปต่อเนื่องจาก

แวะนมัสการองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพระเจดีย์หลวงปู่หลุย จันทสารเถระ วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร

แวะชมพระธาตุนารายณ์เจงเวง จังหวัดสกลนคร

ซึ่งทั้งสองทริปก็เป็นวันเดียวกันครับ และผมเองก็ได้ไปอำเภอเต่างอยด้วย อำเภอเต่างอย เป็นอำเภอขนาดเล็กครับ อยู่บริเวณใกล้ๆ  อุทยานภูพาน ครับ การเดินทาง หากเดินทางมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนขึ้นอุทยานแห่งชาติภูพาน จะเจอกับป้ายบอกทางไปอำเภอเต่างอย หรือจะเลือกการเดินทางมาที่ตัวจังหวัดก่อนก็ได้ครับ คือลงจากอุทยานแห่งชาติภูพานเสร็จแล้วก็จะเจอทางแยกไปตัวจังหวัดสกลนคร ซึ่งจะพบกับห้างค้าคือ ห้างไทวัสดุก่อน ซึ่งจุดนี้เอง จะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่อำเภอเต่างอยครับ





ภาพปูนปั้นขนาดใหญ่บริเวณสวนสาธารณะในอำเภอเต่างอย



ข้อมูลคร่าว ๆครับ
ที่ว่าการอำเภอเต่างอย หมู่ที่ 6 ตำบลเต่างอย อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร 47260

ศาลาแก้วกู่ จังหวัดหนองคาย

>>>>>> หากมาเที่ยวหนองคาย สามารถจองห้องพักหรือดูห้องพักได้ที่นี่ครับ <<<<<< 

ศาลาแก้วกู่ ผมเองพึ่งไปจังหวัดหนองคายเป็นครั้งแรกครับ เมื่อช่วงปีใหม่ ในภารกิจเดิมคือไปทำงานออกต่างจังหวัด ซึ่งหนองคายก็ถือว่าเป็นเมืองที่ผมเองได้ยินมานาน เกี่ยวกับประวัติ แต่ไม่เคยได้ไปท่องเที่ยวเลย แต่ปีนี้ถือโอกาสเหมาะเจาะครับ เลยได้ไปเที่ยวสักที แต่ก็ไม่ได้เที่ยวเต็มที่หรอกครับ ไปทำงานซะมากกว่า หนองคาย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ บั้งไฟพยานาค นั่นเองครับ สัญลักษณ์ของจังหวัดนี้ก็คือ รูปปั้นพยานาคขนาดใหญ่ครับ บริเวณทางเข้าเมือง การใช้เส้นทางก็ผมเองขับจากกรุงเทพมหานคร แล้วมุ่งตรงเข้าโคราชหรือนครราชสีมา แล้วเข้าสู่ขอนแก่น แล้วเข้าสู่จังหวัดอุดรธานีและเข้าสู่จังหวัดหนองคายครับ


ป้ายทะเบียนสีเหลืองรถที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านและพวงมาลัยคนขับจะอยู่ฝั่งซ้ายมือเราครับ

จะสังเกตทันทีครับว่า เวลาเข้าเขตจังหวัดหนองคายแล้วจะพบกับป้ายทะเบียนสีเหลือง ก็คือป้ายที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเองครับ คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวครับ พี่น้องชาวลาวก็เข้ามาเที่ยวโดยผ่านสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 1 สำหรับ สะพานมิตรภาพ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ อังกฤษ 1st Thai-Lao Friendship Bridge ลาว ຂົວມິດຕະພາບ ລາວ-ໄທ I นับเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่แห่งแรกครับ โดยเชื่อมต่อเทศบาลเมืองหนองคายเข้ากับบ้านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาวและติดแม่น้ำโขงด้วย



ผมสังเกตุเห็นประชากรในจังหวัดส่วนใหญ่มีน้ำใช้ตลอดปีเลยครับ พืชผลทางการเกษตรก็มีเยอะแยะมากมายเกิดขึน บรรยากาศครั้งแรก ผมมักจะจดจำบรรยากาศครั้งแรกเสมอ อย่างหนองคาย ความรู้สึกครั้งแรก คือ รู้สึกผมเองไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่นัก บรรยากาศของเมืองดูหมองๆ เป็นความรู้สึกผมนะครับ และช่วงที่ผมไปทำงานเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเต็มพิกัดเลย ผมป่วยที่ครั้งแรกครับ เนื่องด้วยอากาศหนาวเหลือเกิน น่าจะราว 10 องศาเซลเซียสในช่วงดึก ๆ ครับ บรรยากาศก็สบายดีครับ ไม่ร้อนจนเกินไป


นับเป็นจังหวัดหนึ่งที่ควรมาสัมผัส นอกจากนี้ยังมีฝรั่ง ต่างชาติ ได้ให้ความสนใจมาเที่ยวเยอะแยะมากมายครับ ส่วนผมเองได้ไปเที่ยวแค่บริเวณ ศาลากู่แก้ว จังหวัดหนองคายครับ เส้นทางก็คือ ถึงตัวจังหวัดแล้ว ให้เลี้ยวขวาไปเส้นทางจังหวัดบึงกาฬครับ หลังจากนั้นจะเจอป้ายบอกทางเป็นระยะๆ คือ ศาลาแก้วกู่

ที่มา  ท่องเที่ยวไทย